วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Cloud Computing.

ตามหลักของ Wikipedia ได้ให้ความหมายของ cloud computing
          Cloud Computing หมายถึง ทรัพยากรสำหรับการประมวลผลที่จัดเตรียมและจัดการโดยบุคคลหรือองค์กรที่สาม (Third Party) โดยทรัพยากรเหล่านี้ถูกจัดเตรียมไว้ที่  Data Center จากนั้น ผู้ใช้ของ Cloud Computing สามารถเข้าไปใช้งานทรัพยากรเหล่านี้โดยการซื้อได้ตามที่ต้องการโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องคำนึงเลยว่าทางผู้ให้บริการทรัพยากรจะบริหารทรัพยากรให้มีความสามารถขยายตัวด้วยวิธีอะไร  แต่ประโยคสุดท้ายเขาได้กล่าวว่า การที่ Cloud Computing จัดเตรียมความสามารถที่ระบบสามารถขยายตัวได้ตามความต้องการของผู้ใช้ (increasing option) ก็เป็นเรื่องท้าทายที่ผู้พัฒนาระบบจำเป็นจะต้องเป็นห่วงเป็นกังวลแทน นั่นหมายความว่า ถ้าหากผู้ใช้ต้องการทรัพยากรมากกว่าที่ผู้ให้บริการจะเตรียมให้ได้ ผู้ให้บริการจะต้องค้นหาวิธีใดๆก็ตามเพื่อสนองต่อความต้องการที่เพิ่มมาแบบฉับพลันนี้ให้ได้ อย่างเช่น ผู้ให้บริการอาจจะต้องกลายเป็นผู้ใช้หรือลูกค้าของผู้ให้บริการเจ้าอื่นๆเป็นทอดๆ เป็นต้น
 ความหมายของ Cloud Computing
          Cloud Computing คือ วิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบ Cloud Computing จากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้องการผู้ใช้ ทั้งนี้ระบบสามารถเพิ่มและลดจำนวนของทรัพยากร รวมถึงเสนอบริการให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบเลยว่าการทำงานหรือเหตุการณ์เบื้องหลังเป็นเช่นไร
            Cloud Computing นั้นเป็น  "Anywhere! Anytime!"  คือทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนก็ตาม ขอแค่มี Internet  กับ Computer สักตัว คุณก็ทำงานได้แบบ 24/7 (24 ชั่วโมง 7) 

รูปแบบของ Cloud Computing





     จากภาพด้านบนเป็น server ผู้ให้บริการเพื่อให้สามารถให้บริการ Client ได้ทั่วโลกพร้อมๆกัน โดย Cloud Computing นั้นมีหลักการคือจะมี Client กับ Server  โดยในฝั่ง Server จะมีหน้าที่ในการประมวลผลคำสั่งต่างๆที่ถูกร้องของจาก Client  โดยการทำงานง่ายๆก็คือ เพียงแค่ใช้ internet browser ในการทำงาน  ก็เรียกใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม


เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Cloud Computing
  • Agility (การทำงานที่รวดเร็ว) ผู้ใช้จะรู้สึกเหมือนทุกอย่างผ่านไปอย่าง
  • Cost (ลดค่าใช้จ่าย) ช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กร และอาจฟรีสำหรับ Client
  • Device and location independence (ห่างไกลไร้พันธนาการ) ใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • Multi-tenancy (การแบ่งทรัพยาการ) สามารถแบ่งทรัพยากรไปให้ผู้ใช้จำนวนมาก  เช่น  Centralization สร้างจุดศูนย์รวมบริการอย่าง Real estate ขายบ้าน เป็นต้น
  • Reliability (ความน่าเชื่อถือ) ในทางธุรกิจแล้ว ความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งดึงดูดกำไรเข้าองค์การเลยก็ว่าได้ มีความพร้อมสำหรับการรับมือกับภัยคุกคามข้อมูลต่างๆมากแค่ไหน
  • Scalability (การขยายของเทคโนโลยี) พร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้ใช้ และเตรียมรองรับเทคโนโลยีหลายๆรูปแบบ
  • Security (ปลอดภัย) สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ และยิ่งใน Cloud Computing แล้วข้อมูลรวมอยู่ที่เดียวกัน ก็ยิ่งต้องเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
  • Sustainability (มั่นคง) โครงสร้างที่แข็งแรง
รูปภาพจาก: www.google.com

ไม่มีความคิดเห็น: